บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2016

(os) until the dawn - markmin

Meet me after dark again and i’ll hold you I am nothing more than to saviour of that And maybe tonight, we’ll fly so far away คืนพระจันทร์เสี้ยวเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงลมพัดหวิวและเสียงแมลงเล็กดังขึ้นบางเบา ไอเย็นยะเยือกของสายลมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปกคลุมไปทั่วผืนป่าลึก ท้องฟ้าสีดำมืดสนิทถูกแต่งแต้มด้วยดวงดารานับล้านส่องประกายระยิบระยับ น้ำค้างใสเกาะตามใบหญ้าสะท้อนแสงดาววาววับ แสงจันทร์นวลสาดแสงส่องกระทบผิวน้ำอาบไล้สองร่างที่แช่น้ำอยู่บริเวณริมลำธารจนเกิดเป็นเงาสะท้อนลงบนพื้นหญ้าเป็นรูปร่างชัดเจน ร่างกายภายใต้กล้ามเนื้อของชายหนุ่มตระกองกอดอีกร่างไว้แนบกาย “อือ.. หากข้าไม่พูดเจ้าคงไม่คิดจะหยุด” น้ำเสียงนุ่มเปรยขึ้นแผ่วเบาพลางเอียงคอหนีการรุกล้ำของริมฝีปากหยัก ร่างแบบบางขยับกายหวังเพียงให้หลุดออกจากอ้อมแขนร้อนที่เกี่ยวล็อคเอวตนไว้แน่นจากด้านหลัง “เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปคืนนี้” “อื้อ...” ปากบางสีแดงสดเม้มเข้าหากันแน่นสกัดกลั้นเสียงครางเครือเมื่อฝ่ามือใต้ผิวน้ำเริ่มลูบไล้ไปทั่วกาย ริมฝีปากร้อนกดลงบนต้นคอ

(os) it's magic - markmin

you make it look like it’s magic ‘cause i see nobody, nobody but you, you, you มาร์คลีคิดมาตลอดว่านาแจมินมีเวทมนต์… และเขา... เป็นคนที่โดนสาปให้ตกอยู่ในภวังค์นั้นโดยสมบูรณ์ “อะ.. พี่มาร์ค...เดี๋ยว” ร่างกายเล็กประกอบด้วยกล้ามเนื้อเล็กน้อยบิดเร่าทุกครั้งที่ริมฝีปากร้อนเลื่อนไล้ผิวเนียนตั้งแต่แก้มใส เคลื่อนผ่านลูกกระเดือกของเด็กหนุ่มวัยกำลังโต ฝังคมเขี้ยวลงบนซอกคอขาวเป็นรอยประปราย กดจูบเบาๆที่แอ่งหัวใจ แล้วจึงลากปากหยักไปจนถึงบริเวณท้องน้อยขบเม้มแสดงความเป็นเจ้าของทุกตารางนิ้วจนขึ้นสีน่ามอง “คนอื่นอยู่..ฮึก อยู่ข้างนอก” คมเขี้ยวเล็กกัดลงบนริมฝีปากแดงช้ำสกัดเสียงครางเครือจากอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า เกรงว่าบรรดาเพื่อนและน้องที่อยู่ด้านนอกห้องจะได้ยินเสียงน่าอายเหล่านี้ มือบางพยายามออกแรงที่มีอยู่เพียงน้อยนิดดันไหล่หนาของคนด้านบนออกแต่ก็ไม่เป็นผล “อึก...อ๊าา” สัมผัสร้อนผ่าวเบียดกายเข้าหาแนบชิด ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเปล่งเสียงร้องอย่างสุดกลั้นเมื่อรู้สึกถึงตัวตนของอีกฝ่ายที่ค่อยๆดันกายเข้ามา ต้นขาขาวหนีบเข้าหากันโดยอัตโนมัติทันทีที่ความเสียวซ่านแล่นริ